แกงฮังเล

อาหารทางภาคเหนืออีกเมนูที่อยากแนะนำคือ”แกงฮังเล“เป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรไทยหลายชนิดซึ่งแกงฮังเลนี้บางตำรากล่าวว่าได้รับอิทธิพลมาจากพม่าแต่อย่างไรก็ตามแกงชนิดนี้ถือเป็นอาหารเด่นของชาวเหนืออีกชนิดหนึ่ง

รูปแกงฮังเล

แกงฮังเล

ส่วนประกอบที่เป็นเครื่องปรุง เนื้อหมูสันนอก 1 กิโลกรัม หมูสามชั้น 500 กรัม สับปะรด 200 กรัม ผงแกงฮังเลหรือผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ(15 กรัม) ขิงสดหั่นเส้นบาง 30 กรัม กระเทียมปอกเปลือก 25 กรัม น้ำมะขามเปียก 60 กรัม น้ำ 400 กรัม
ส่วนประกอบที่เป็นเครื่องแกง พริกแห้ง 5 เม็ด ตะไคร้หั่นบาง 1 ช้อนโต๊ะ(15 กรัม) กระเทียมปอกเปลือกหั่นเล็ก 1 ช้อนโต๊ะ(15 กรัม) หอมแดงปอกเปลือกหั่นบาง 2 ช้อนโต๊ะ(30 กรัม) กะปิ 1 ช้อนชา(8 กรัม) เกลือป่น 1 ช้อนชา(8 กรัม)
วิธีทำ
1.โขลกเครื่องทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด
2.หั่นหมูทั้งสองอย่างเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดพอคำเคล้าด้วยซีอิ๊วดำแล้วนำเครื่องแกงใส่กับหมู เคล้าเข้าด้วยกัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
3.ใส่หมูลงในหม้อ ใช้ไฟอ่อนๆผัดพอหมูตึงตัวใส่น้ำลงในหม้อปิดฝาตั้งเคี่ยวไปเรื่อยๆ
4.ใส่กระเทียมที่ปอกเปลือกเป็นกลีบ ใส่ผงแกงฮังเลหรือผงกะหรี่ ตั้งเคี่ยวจนหมูนุ่ม และน้ำงวดข้นคล้ายแกงมัสมั่น
5.ใส่ขิง ทุบพอให้สุก ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก ชิมรสให้ได้ 3 รส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ถ้าอ่อนเค็มให้เติมเกลือ
สรรพคุณทางยาสมุนไพร
1.ขิง รสหวานเผ็ดร้อน แก้ลมจุกเสียด แก้เสมหะ บำรุงธาตุ แก้คลื่นเหียนอาเจียน
2.สับปะรด รสหวานเปรี้ยวเล็กน้อย ช่วยขับปัสสาวะ
3.กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคผิวหนัง น้ำมันกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในหลอดเลือด
4.มะขามเปียก รสเปรี้ยว ขับเสมหะ แก้ท้องผูก แก้ไอ ลดความร้อนในร่างกาย
5.พริก รสเผ็ดร้อน ช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร
6.ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร และขับเหงื่อ
7.หอมแดง รสเผ็ดร้อน แก้ไข ขับเสมหะ บำรุงธาตู แก้ไข้หวัด

รูปยาบรรเทาริดสีดวงทวาร เอส พี

Comments are closed.